Ley Line : สายสัมพันธ์ทางพลังงานของเกาะพะงัน ที่เชื่อมโยงกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลก

ด้วยตาเปล่า เราอาจมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ในทางกายภาพ ด้วยใจที่เปิดกว้างเราอาจเห็นสายสัมพันธ์ของทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกัน รวมถึงตัวเราเองด้วย

เมื่อพูดถึงพลังงานหรือความศักดิ์สิทธิ์ แวบแรกเราอาจจะนึกถึงพระ เทพ ผี เจ้าพ่อ หรือ เจ้าแม่ต่างๆ แวบต่อมาอาจนึกถึงสถานที่ที่ผู้คนเคารพศรัทธา ใกล้ๆ ตัวเราที่เห็นผ่านข่าวหรือบางคนอาจจะเคยไป เช่น คำชะโนด เขาคิชฌกูฏ ดอยหลวงเชียงดาว พ้นไปจากไทย เราก็รู้จักแม่น้ำคงคา นครมักกะฮ์ เยรูซาเลม และอีกมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วโลก

ในอดีตพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมักจะถูกค้นพบโดยนักแสวงหาทางจิตวิญญาณ ที่เดินทางร่อนเร่ไปในดินแดนต่างๆ ซึ่งการค้นพบสถานที่เหล่านี้มักจะมีจุดร่วมกันคือลักษณะทางธรรมชาติบางอย่างที่พิเศษหรือแปลกประหลาดกว่าสถานที่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นความใหญ่โตมโหฬาร ความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิต หรือมวลบรรยากาศที่พิเศษไม่ว่าจะเป็นความร่มรื่นหรือน่าพิศวง 

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าสิ่งแรกที่นักแสวงหาได้สัมผัสคือลักษณะเชิงกายภาพของพื้นที่ผ่านผัสสะทางร่างกาย ซึ่งความโดดเด่นทางธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ สามารถสื่อสารกับมนุษย์ถึงความยิ่งใหญ่และซับซ้อนของสิ่งที่เหนือไปกว่าตัวมนุษย์เองได้เป็นอย่างดี

จึงไม่น่าแปลกที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในโลกก็มักจะมีลักษณะทางธรรมชาติที่แตกต่างจากพื้นที่ปกติ ความศักดิ์สิทธิ์กับความพิเศษทางธรรมชาติ จึงมักจะอยู่ร่วมกันอย่างสอดคล้อง เพราะเมื่อเรามีประสบการณ์กับโลกภายนอกผ่านผัสสะทั้ง 6 แล้ว ก็ย่อมนำไปสู่การเปิดผัสสะทางใจเพื่อสัมผัสกับโลกด้านในด้วย

ด้วยเหตุผลคล้ายกันนี้ เกาะพะงันจึงเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหมุดหมายของนักแสวงหาทางจิตวิญญาณยุคปัจจุบัน เพราะเกาะแห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่น่าสนใจและหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล ลำธาร ผืนป่า น้ำตก ซึ่งอยู่ร่วมกันในพื้นที่เล็กๆ ของเกาะได้อย่างกลมกลืน

นอกจากเหตุผลด้านทรัพยากรทางธรรมชาติแล้ว พะงันยังมีสายใยที่สัมพันธ์กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลก โดยมีทฤษฎีบางชิ้นพูดโครงข่ายพลังงานธรรมชาติที่เรียกว่า Ley Lines ซึ่งเชื่อมโยงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน

ในบางความเชื่อของโลกจิตวิญญาณ กล่าวว่า Ley Lines คือเส้นในแผนที่ที่บ่งบอกถึงการไหลเวียนของพลังงานบนผืนโลก ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงข่ายเชื่อมโยงไปทั่วโลก และมีความเชื่อว่าพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนทางผ่านของเส้น Ley Lines จะมีพลังงานธรรมชาติสูงเป็นพิเศษ ซึ่งหากลองดูรายชื่อของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเส้นทางของ Ley Lines หลายคนก็อาจจะเห็นพ้อง เช่น สโตนเฮนจ์-อังกฤษ มาชูปิกชู-เปรู นครวัด-กัมพูชา ภูเขาไฟฟูจิ-ญี่ปุ่น เขาไกรลาส-ทิเบต

เกาะพะงัน ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ตั้งอยู่ในทางผ่านของเส้น Ley Lines ทำให้มีความเชื่อว่าเกาะแห่งนี้เป็นศูนย์รวมพลังงานธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และเฉพาะตัวที่สุดแห่งหนึ่ง นักแสวงหาจากทั่วโลกจึงเดินทางเข้ามายังเกาะแห่งนี้ เพื่อสัมผัสกับพลังงาน เรียนรู้ และฝึกตน ในอ้อมกอดของเกาะ

หนึ่งในหลักฐานเชิงประจักษ์ตามทฤษฎี Ley Line คือการที่เกาะพะงันมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เกิดจากพลังงานอันเข้มข้นของผืนโลก จึงทำให้เกาะแห่งนี้มีทรัพยากรที่สวยงามและเฉพาะตัว แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล ภูเขา น้ำตก ลำธาร ผืนป่า รวมไปถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย

ในส่วนประวัติศาสตร์พื้นที่ของเกาะพะงันเอง ก็มีเรื่องเล่าที่สะท้อนให้เห็นถึงความเฉพาะตัวทางพลังงานของพื้นที่ ซึ่งผู้ปฏิบัติรุ่นก่อนได้พยายามเก็บรักษาเพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป เช่น เรื่องราวจุดกำเนิดของพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน ซึ่งมีที่มาจากพระนักอนุรักษ์รูปหนึ่งซึ่งเห็นความสำคัญของการรักษาพื้นที่ป่าไว้ให้กับคนรุ่นหลัง

ผืนป่าเดียวกันนี้เป็นพื้นที่ที่ท่านได้เคยได้เข้าไปฝึกฝนและปฏิบัติ ก่อนจะตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นในภายหลัง ท่านได้เริ่มต้นทำงานสื่อสารกับคนในพื้นที่ รณรงค์ให้ชาวบ้านลดการบุกรุกป่าและจับจองที่ดินจนสามารถจุดประกายแนวคิดการรักษาทรัพยากรป่าไม้ให้ออกไปสู่ชุมชนในวงกว้าง และทำให้พื้นที่ที่พระนักอนุรักษ์ท่านนี้ธำรงรักษาไว้ กลายมาเป็นผืนป่าแห่งสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติในทุกวันนี้

จะเห็นได้ว่า การที่ความศักดิ์สิทธิ์หรือมนต์ขลังบางอย่างของพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งจะก่อตัวขึ้นมาได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ได้เกิดจากปัจจัยทางพลังงานที่มองไม่เห็นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการกระทำของผู้คนที่ได้สัมผัสและมีประสบการณ์ร่วม จนเห็นคุณค่าและเชื่อในประโยชน์ที่พื้นที่แห่งนั้นจะสามารถสร้างให้เกิดขึ้น

หลายปีที่ผ่านมา เกาะพะงัน มีการเกิดขึ้นของสถานที่ฝึกฝนทางจิตวิญญาณมากมาย ทั้งรูปแบบที่ร่วมสมัยอย่างศูนย์รีทรีท โรงเรียนสอนโยคะ กลุ่มนักดนตรีทางจิตวิญญาณ ฯลฯ ไปจนถึงรูปแบบที่เป็นศาสนสถานอย่างศาลเจ้าและวัด

ล่าสุดนี้ มูลนิธิวัชรปัญญา ก็ได้มีโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการระดมทุนเพื่อก่อสร้าง “วัดฆราวาสร่วมสมัย” บนผืนดินของเกาะพะงัน ในชื่อ ปัทมคาระ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนการภาวนาอย่างลงลึก (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการ “ปัทมคาระ • Padmakara” ศูนย์สุขภาวะและชุมชนภาวนาแห่งเกาะพะงัน – วัชรสิทธา)

ในความเข้าใจของคนทั่วไป เกาะพะงันอาจไม่ได้มีความพิเศษแตกต่างไปจากเกาะอีกมากมายในประเทศไทย แต่สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวทางจิตวิญญาณหรือเป็นผู้ฝึกปฏิบัติธรรม เกาะพะงันอาจจะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความน่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ ทั้งจากความเชื่อเรื่อง Ley Line ทรัพยากรทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ผู้คนที่เป็นมิตร ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า ทุกอย่างล้วนแต่เป็น “สัญญาณ” บางอย่างที่บอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์อันแสนพิเศษของเกาะแห่งนี้