Windhorse : ขี่ความกลัว เผชิญทุกความเป็นไปได้

บทความโดย THANYA วัชรสิทธา

จุดเด่นของคำสอนชัมบาลา คือ ชุดคำศัพท์ใหม่ของคำสอน ที่พาให้เราเข้าไปสัมผัสกับคุณสมบัติแห่งการตื่นรู้ในท่าทีที่ต่างออกไปจากศาสนากระแสหลักหรือแม้กระทั่งจากพุทธศาสนาเอง โลกทัศน์ชัมบาลาเผยแสดงผ่านภาพของอาณาจักร ราชา ราชินี นักรบ พลังวิเศษ สัตว์วิเศษ ฯลฯ ลองนึกภาพโลกของแฮรี่ พอตเตอร์ หรือ ลอร์ดออฟเดอะริง ชัมบาลาฝึกให้เราสัมผัสกับเวทมนตร์ ความศักดิ์สิทธิ์ และเข้าถึงพลังอำนาจแห่งการตื่นรู้ ในโลก ที่ครั้งหนึ่งที่เราอาจมองว่าช่างจำเจ น่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ แม้ชัมบาลาจะเป็นโลกจิตวิญญาณที่ดูแฟนตาซี ไกลตัว แต่เมื่อได้เรียนคำสอน นำมาฝึกฝน และมีประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง กลับพบว่าชัมบาลาช่างเป็นเนื้อเดียวกันกับชีวิต ทั้งเส้นทางภายใน ความเป็นตัวของตัวเอง ท่าทีในการสัมพันธ์กับรายละเอียดของชีวิต มุมมองต่อสังคม และการเป็นส่วนหนึ่งของโลกอันศักดิ์สิทธิ์

Basic Goodness

หัวใจและฐานรากของคำสอนชัมบาลา คือเรื่อง ความดีพื้นฐาน (Basic goodness)  นักรบชัมบาลาเชื่อว่าเนื้อแท้ของมนุษย์ทุกคน รวมถึงสรรพชีวิตและสรรพสิ่ง ล้วนสมบูรณ์และดีงามอยู่แล้วในตัวเอง คำสอนของชัมบาลาไม่ได้พาให้เราเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข แต่สอนให้เข้าถึง “ความเป็น” อย่างจริงแท้ โดยปราศจากอคติ การปรุงแต่ง หรือความคิดตัดสิน ความกล้าหาญของนักรบชัมบาลา สะท้อนอยู่ในความเปิดกว้างกับทุกสิ่ง อยู่ตรงนั้นกับทุกสถานการณ์ ด้วยความไว้วางใจในความดีพื้นฐาน ผลลัพธ์คือ ทุกสภาวะสามารถเผชิญได้

Basic Goodness เป็นคำสอนที่เรียบง่าย ลึกซึ้ง แต่เป็นพื้น ที่สำคัญที่สุด หากนักรบชัมบาลาสามารถบ่มเพาะความไว้วางใจในความดีพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว มุมมองต่อสิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไป  และท่าทีในการสัมพันธ์กับสถานการณ์ก็จะต่างไป เราจะสามารถเปิด อนุญาต ยอมรับให้ทุกสิ่งเกิดขึ้น ปล่อยให้เป็นไป สบตาอย่างสง่างาม ต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างกล้าหาญและอ่อนโยน

Windhorse ปลุกเร้าพลังงานแห่งความดีพื้นฐาน

“เธอควรยอมรับตัวเองด้วยความยินดี เคารพตัวเอง ปล่อยวางจากความสงสัยและความอับอาย เพื่อที่เธอจะเรียกคืนความดีพื้นฐานและความเรียบง่าย และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น พลังงานที่มีอยู่โดยตัวมันเองนี้มาจากการปล่อยวาง เรียกว่าม้าลม” – เชอเกียม ตรุงปะ

เมื่อเราบ่มเพาะความเชื่อมั่นในความดีพื้นฐาน และฝึกที่จะไว้วางใจกับการอยู่ในสภาวะต่างๆ ของตัวเอง ไม่ว่าจะ เศร้า เสียใจ ดีใจ ภาคภูมิใจ หรือกับสถานการณ์ภายนอกที่อาจรื่นเริงหรือปั่นป่วน โดยไม่หนี หรือเข้าไปจัดการให้เป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการ ด้วยท่าทีของการปล่อยให้เป็นไปนี้เอง เราจะพบกับพลังงานบางอย่าง …พลังที่ไม่รู้มาจากไหน แต่อยู่ตรงนั้นเสมอ 

“….มันคือพลังงานของความดีพื้นฐาน ในคำสอนชัมบาลา พลังที่มีอยู่ด้วยตัวมันเองนี้เรียกว่า “ม้าลม” หลักการของ “ลม” คือพลังของความดีพื้นฐานที่แข็งแรง อุดมสมบูรณ์และยอดเยี่ยม  มันสามารถทำให้พลังมหาศาลในชีวิตฉาดฉายออกมา แต่ในขณะเดียวกันความดีพื้นฐานนี้ก็สามารถขี่ได้ ซึ่งก็คือหลักการของม้า ด้วยการปฏิบัติตามวินัยของนักรบ โดยเฉพาะวินัยของการสละละวาง เธอจะสามารถควบคุมลมแห่งความดีงาม ในแง่หนึ่งม้าไม่เคยโดนล่าม ความดีพื้นฐานไม่มีวันเป็นสมบัติส่วนตัวของเธอ แต่เธอสามารถปลุกและกระตุ้นพลังงานแห่งความดีพื้นฐานในชีวิตได้…” – เชอเกียม ตรุงปะ

การปลุกเร้า windhorse เริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อกับความดีพื้นฐานที่มีอยู่แล้วในตัว แล้วขึ้นขี่สภาวะอารมณ์ (โดยเฉพาะความกลัว) กระโจนเข้าสู่พื้นที่เปิดของสถานการณ์โดยไม่ถอยหนี ในที่นี้ เราไม่ได้กำลังตัดอะไรทิ้งไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่ไม่ได้ปกคลุมเรา อยู่เหนือเรา หรือบดบังวิสัยทัศน์ของเรา เราไม่ได้ถูกบงการโดยอารมณ์ลบๆ แล้วหดตัว ปิดตาย หรือกลับเข้าสู่โหมดไม่ไว้วางใจของรังดักแด้ เราปล่อยให้ความกลัวเกิดขึ้น และยอมรับมันอย่างสง่าผ่าเผย เราใช้พลังงานของความกลัวที่เกิดขึ้นนั้น เปิดตัวเองออก และยกตัวเองขึ้น สู่การเผชิญสถานการณ์นั้นๆ อย่างกล้าหาญ

ในช่วงเวลาที่ปั่นป่วนที่สุด หันไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมน ร่างกายเหมือนโดนบีบ แม้แต่หายใจให้เต็มปอดก็ทำไม่ได้ ในหัวสนั่นหวั่นไหวด้วยเสียงความคิด เรื่องราวที่ทำร้ายเรา เสียงตัดสินกล่าวโทษตัวเอง กระทั่งอยากตาย เรารู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความกลัว เราไม่อยากยอมรับ ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ในชั่วขณะนี้เอง คือช่วงเวลาสำคัญของการปลุก windhorse

เริ่มด้วยการตระหนักถึงความดีพื้นฐาน ความสมบูรณ์แล้วของสิ่งที่เกิดขึ้นและมีอยู่ ด้วยความผ่อนคลายและไว้วางใจเพียงชั่วครู่ ปลุกพลังม้าลมที่ยกเราขึ้นเหนือความกลัว ขี่เมฆหมอกทางอารมณ์อย่างผ่าเผย องอาจอยู่บนหลังม้า กลายร่างเป็นนักรบชัมบาลาผู้ดำรงอยู่ในสถานการณ์ตรงหน้าอย่างสง่างาม

ในชีวิตจริง เราสามารถปลุกพลังม้าลมขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ กลับมาที่ลมหายใจ ตั้งแกนกระดูกสันหลังให้ตรง “Shape of the Warrior” ลืมตาขึ้นมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมา ฝึกที่จะขึ้นขี่ความกลัวและไม่วิ่งตามปฏิกิริยาของการถอยหนี

“เมื่อไรที่เธอเชื่อมต่อกับพลังม้าลม โดยธรรมชาติ เธอปล่อยจากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะจิตของตัวเอง และเริ่มที่จะคิดถึงผู้อื่น ถ้าเธอไม่สามารถปล่อยจากความเห็นแก่ตัวได้ เธอก็อาจจะแช่ม้าลมให้กลายเป็นน้ำแข็ง” – เชอเกียม ตรุงปะ

Four Dignities – สัตว์วิเศษแห่งความสง่างาม

เมื่อเราฝึกที่จะไว้วางใจในความดีพื้นฐาน ขี่ม้าลมแห่งพลังอันไปพ้นตัวตนนี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือเราจะสามารถอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มเปี่ยมโดยไม่มีอัตตามากั้นขวาง อิสรภาพแห่งม้าลมจะนำพาคุณลักษณะสี่อย่างในการเข้าไปสัมพันธ์กับสถานการณ์นั้นๆ 

ในคำสอนชัมบาลาเรียก ปัญญาญาณทั้งสี่ นี้ว่า Four Dignities (ความภาคภูมิสี่ประการ) แทนด้วยสัตว์สี่ชนิด ครุฑ มังกร สิงโตหิมะ และเสือ 

ครุฑ คือนักรบแห่งความอาจหาญ เขาเป็นอิสระจากความคาดหวังและความกลัว ลงมือกระทำสิ่งต่างๆ อย่างเฉียบขาด และกางปีกออกไปได้ไพศาล

สิงโตหิมะ คือนักรบแห่ความเบิกบานและชีวิตชีวา เต็มไปด้วยความเยาว์และความสงสัยใคร่รู้ 

เสือ คือนักรบแห่งความนอบน้อม กระทำการต่างๆ ด้วยความนุ่มนวลและเงียบเชียบ ไม่ถูกลวงหลอกด้วยเรื่องราวไร้สาระ

มังกร คือนักรบแห่งความลุ่มลึก มีปัญญาญาณ ลงมืออย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอย ด้วยการใคร่ครวญอย่างถ่องแท้

ทั้งสี่คุณสมบัตินี้ ไม่ได้เกิดมาจากอัตตา ไม่ใช่ร่องนิสัย หรือ personality type แต่เป็นคุณสมบัติที่ทุกคนมี เมื่อสามารถดำรงอยู่กับสถานการณ์อย่างจริงแท้ ในบางสถานการณ์อาจต้องเป็นครุฑ  ในอีกสถานการณ์อาจต้องเป็นเสือ เมื่อเราเข้าไปสัมพันธ์กับชั่วขณะนั้นๆ โดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คุณสมบัติเหล่านี้ก็จะปรากฎ และตัวเราเองก็จะเป็นแสงสว่างแห่งความดีพื้นฐานให้แก่พื้นที่ตรงนั้น

“เมื่อคุณได้พบคนผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยการดำรงอยู่จากภายใน คุณจะพบว่าเขาหลากล้นไปด้วยความจริงแท้ ซึ่งน่าตื่นตระหนกอยู่มิใช่น้อย เพราะว่าเต็มไปด้วยความจริงยิ่ง สัตย์ชื่อยิ่ง และชัดเจนยิ่ง คุณรู้สึกได้ถึงอำนาจบารมี ซึ่งแผ่ออกมาจากบุคคลผู้มีการดำรงอยู่อันแท้จริงภายใน แม้ว่าคนผู้นั้นอาจเป็นเพียงคนเก็บขยะหรือคนขับแท็กซี่ แต่เขาก็ยังมีคุณลักษณ์อันสูงส่งซึ่งดึงดูดความสนใจและทำให้คุณรู้สึกเกรงขาม นี้มิใช่เป็นเพียงแค่เสน่ห์ดึงดูด คนผู้ซึ่งมีการดำรงอยู่อย่างแท้จริงภายใน ย่อมกระทำการในตนเองและเดินทางไปอย่างเหมาะเจาะจนสุดหนทาง เขาได้รับการดำรงอยู่อย่างแท้จริงขึ้นมาด้วยการสละละวาง และโดยการยุติความสุขสบายส่วนตนและการยึดติด”  – เชอเกียม ตรุงปะ

การฝึกตนของนักรบชัมบาลา พาเราเข้าไปสัมพันธ์กับชีวิตอย่างเข้มข้น โอบรับทุกความเป็นไปได้เข้ามาในความตระหนักรู้ ไว้วางใจในความดีงามและความตื่นที่เป็นธรรมชาติพื้นฐานของทุกสิ่ง ไม่กลัวที่จะเปราะบาง กล้ายอมรับ ปล่อยให้เป็นไป และจริงแท้กับทุกแง่มุมของความเป็นมนุษย์

จงเชื่อมั่นในศักยภาพแห่งความดีพื้นฐานภายใน ไปพ้นจากการแบ่งขั้ว และดื่มด่ำกับการเผชิญทุกสภาวะที่ปรากฏ

Have a good journey.