เราจะเกลียดหรือรักคนที่ไม่เคยรู้จักได้อย่างไร

บทความโดย ความสุขของนิทิ

นี่ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นปฏิเสธ เพราะการรู้สึกรักหรือเกลียดใครสักคนโดยที่ไม่ได้รู้จักเขาคนนั้นจริง ๆ อาจหมายความว่าเรารักหรือเกลียดตัวตนของคนที่ไม่มีอยู่จริง มันถูกบอกเล่าโดยคนอื่น ถูกกำหนดกรอบการรับรู้ ถูกสร้างสรรค์ บิดเบือน หรือปั้นแต่งขึ้นมาทั้งหมด ความจริงเดียวเกี่ยวกับตัวเขาที่เรารับรู้อาจเป็นเพียงใบหน้าที่เรามองเห็นว่าเป็นของเขา หรือแม้แต่ใบหน้านั้นที่มองผ่านจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ก็อาจจะไม่ได้สื่อสารความจริงใดๆ ออกมาเลยก็เป็นได้

ในวันที่โลกเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารส่งตรงถึงกันแทบจะทั่วทุกตารางนิ้วภายในเสี้ยวนาที มีเรื่องราวมากมายไหลผ่านเข้าหน่วยความจำสมองของเราซึ่งล้วนเป็นเรื่องภายนอกเกือบทั้งหมด เรื่องของคนอื่น คนใกล้ คนไกล คนที่อยู่คนละซีกโลก หรือคนที่เราไม่มีวันได้พบเจอในชีวิตจริง ทุกๆ วันเราอาจสะสมความรักและความเกลียดชังที่มีต่อใครสักคนโดยไม่รู้ตัว จากการรับข้อมูลเกี่ยวกับคนเหล่านั้นผ่านคนกลางที่เราไม่เคยสนใจว่าเขาเป็นใคร ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรระดับประเทศหรือระดับโลก แต่ข้อมูลจากคนเหล่านั้นเพียงพอให้เราตัดสินใจเกลียดหรือรักคนที่เขาเล่ามาได้จริงหรือ

ความรักและความเกลียดชังมักผลักดันให้เราทำอะไรบางอย่างเสมอ ทุกวันนี้เรามีเครื่องมือมากมายเหลือเกินที่จะส่งต่อความคิดความเชื่อของเราว่าใครดีใครชั่ว ควรสรรเสริญให้เป็นที่รักหรือสาปส่งจนไม่เหลือชิ้นดี อยากให้ลองนับดูเล่นๆ ว่าคุณเคยรักและเกลียดใครที่คุณไม่เคยได้สัมผัสตัวจริงของเขาบ้างหรือไม่ อย่างเช่น เพื่อนของเพื่อน หลานสาวป้าข้างบ้าน นักแสดง นักร้อง ยูทูบเบอร์ นักธุรกิจ นักบวช นักการเมือง ผู้นำประเทศ เทพจริงๆ หรือสมมติเทพองค์ใด เราอาจจะมอบความรักและโยนความเกลียดชังให้ใครสักคนเพียงเพราะเขาเล่ากันมาว่า… ข่าวเสนอว่า… หนังสือเขียนไว้ว่า… ได้ง่ายๆ โดยไม่ทันรู้ตัว แล้วเราก็เล่าต่อๆ ไป จนบางครั้งเราก็ทะเลาะกันกับคนที่ไม่รู้จักได้อีก และมีคนให้เกลียดเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว

แค่เพียงฉันรักคนนี้ที่เธอเกลียด แล้วเราต้องเกลียดกันไหม ความดีที่เขามีแต่เราไม่เคยรับรู้อาจจะมากพอ ๆ กับความชั่วที่เล่าขานกันมา ความจริงที่เรายึดถืออาจไม่ได้มาจากสื่อกลางที่ไหน แต่มาจากใจเราเองที่อยากจะรักหรือเกลียด เพื่อจะได้สัมผัสถึงสถานะตัวตนที่สูงส่งเพียงพอ

ความรักมักไม่มีเหตุผล แต่เวลาเกลียดใครสักคนเราสาธยายได้เป็นร้อยข้อว่าเขาเลวร้ายอย่างไรบ้าง นั่นอาจเป็นเพราะหัวใจเรามีความรักความเมตตาเป็นพลังพื้นฐาน ความเกลียดชังมักมีเหตุผลมากมายกว่าจะก่อร่างสร้างตัว แต่ความรักมักปรากฎอยู่ทั่วไป สวยงามที่สุดยามที่มาบรรจบกับสติสัมปชัญญะ ณ ขณะที่เราเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาที่ใจเปิดกว้างมองเห็นมนุษย์ยืนบนพื้นดินราบเรียบเท่าเทียมกัน วินาทีนั้นอาจเป็นวินาทีที่เราสามารถมอบความเมตตาต่อตัวเอง ต่อคนที่เรารักและคนที่เราเกลียด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราจะค้นพบตัวตนของเราที่เปิดกว้างพร้อมรับทุกเรื่องราวใหม่ที่ผ่านเข้ามาของใครก็ตามทั้งน่ารักและน่าชัง โดยไม่ต้องปรับระดับหัวใจให้ขึ้นลงอยู่เหนือใครอีก ไม่สูงกว่าใคร ไม่ต่ำด้อยไร้ค่า นั่นคงเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมหรือโลกใบนี้ที่ดีที่สุด

ในแง่หนึ่งความเกลียดชังก็เป็นแรงผลักดันสร้างสังคมให้ดีขึ้น เกลียดคนขี้โกง เกลียดคนที่ชอบทำร้ายคนอื่น เกลียดคนที่ถ่วงความเจริญของประเทศ ความรักก็เช่นกัน รักคนซื่อสัตย์ รักคนเสียสละอุทิศตน แรงผลักจากทั้งสองขั้วไม่ควรเข้ามากระทบกระทั่งความรักความเมตตาที่เป็นพื้นฐานในหัวใจมนุษย์ หากตระหนักรู้ตัวเสมอว่ามีความรักที่เป็นของเราอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะรักหรือเกลียดใครเราจะไม่กดตัวเองลงต่ำหรือผลักไสใครให้ต่ำลงไปมากกว่า เราจะมองเขาเป็นคนคนหนึ่งที่หลงผิดได้และมีความดีหล่อเลี้ยงหัวใจเหมือนกันกับเรา กล้ายอมรับไหมว่าตัวเราเองก็มีความชั่วร้ายเจืออยู่ในความดีที่เราเพียรสร้าง เหตุผลเดียวที่เราควรต่อสู้ฟาดฟันกับคนที่เราเกลียดทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน ก็เพื่อให้ทั้งเราและเขาจับมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าให้กับโลก

กาลครั้งหนึ่งมีคุณตาท่าทางใจดีมีเมตตา ขยันท่องไปในดินแดนที่แสนกันดารอุทิศตนเพื่อคนยากไร้ เขาทำแบบนั้นจนวาระสุดท้ายของชีวิต จึงทำให้มีแต่คนรักและเทิดทูน เวลาผ่านไปไม่นานคนรุ่นหลังเห็นเรื่องเล่าเป็นภาพลวงตาเพราะมีเรื่องเล่าใหม่แทรกเข้ามา คุณตาเคยทำบาปมหันต์ยากเกินจะให้อภัย ความดีทั้งชีวิตไม่สามารถลบล้างปมบาปนั้นได้ ความเกลียดชังเริ่มก่อตัวแข็งกร้าวขึ้น ความรักหนักแน่นที่เคยมีอยู่ต่างกรูเข้ามาต่อสู้ แม้ไม่มีใครเคยรู้จักตัวตนที่แท้ของคุณตา แต่ก็ต่อสู้แทนกันจนหัวใจของทุกฝ่ายก็เจ็บปวด เราอาจลืมคิดไปว่าความดีของคุณตาอาจเคยเกิดขึ้นจริงและความผิดก็เกิดขึ้นได้ คุณตาเป็นแค่คนคนหนึ่งที่มีความรักในหัวใจเดิมแท้เป็นพื้นฐานเหมือนกันกับเราทุกคน ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับได้ไหมว่าคุณตาเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกันกับเรา

ถูกแล้วที่เราจะทวงถามหาความเป็นธรรมจากผลของการกระทำที่ใครบางคนสร้างไว้ บางครั้งก็อาจต้องใช้ความเกลียดเป็นแรงผลัก เกลียดสิ่งที่ผิดเพื่ออยากแก้ไข และรักในสิ่งที่ถูกเพื่อโอบรับกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ การต่อสู้ภายนอกที่แข็งแกร่งย่อมขนานไปกับภายในที่อ่อนโยน เปิดพื้นที่ในหัวใจไว้เพื่อรับความเป็นไปได้ทั้งหมด เปิดไว้ให้ความรักเดิมแท้ในใจได้ทำงานบ้าง ต่อไปเราจะได้ไม่ต้องเลือกเกลียดหรือรักใครที่เราไม่เคยรู้จักอีก หรือแม้แต่คนที่รู้จักดีแล้วก็ตาม

100 Day-Challenge โดย ความสุขของนิทิ
#เขียนให้ครบ100