“สมยศ” – King of Rock n’ Roll กับ “เส้นทางสู่ความว่างเปล่า”

บทความ โดย อันอัน วรวรรณ

”ทะเล ที่ราบ หุบเขา
เรื่องราวมากมาย ในสายลมที่พัด
บางครั้งรุนแรงดั่งมรสุม บางคราสายฟ้าฟาดพินาศ
สายรุ้งพาดผ่านกลางสายฝน
สิ้นสุดที่ความว่างเปล่า

จากโคกโนนแดนโคราช
หุบเขาคนโฉดเมืองปาย
ทะเลสีครามกลางเกาะพงัน
เรื่องราวทุกอย่าง กำลังไหลรวมลงสู่สายน้ำเสียงเพลง
ที่สวยงาม ดุดัน และทำให้คุณงง!
กับ dark side of the road

ทำใจคุณให้กว้าง
แล้วพบกันเด้อ”

ข้างต้นคือคำโปรยเชื้อเชิญมางานคอนเสิร์ต “เส้นทางสู่ความว่างเปล่า” Music Performance by ยศ เพลินจิตร ที่วัชรสิทธา เทเวศร์

คำเชื้อเชิญจากชายหนุ่มปริศนา นักดนตรีขาจรที่แวะมาเยี่ยมเยียนกรุงเทพจากเส้นทางเกาะพงัน โคราช และเมืองปาย เขาเองก็ไม่รู้ว่าหนทางต่อไปจะเป็นที่ไหน แต่เขาได้พาเราเดินเข้าสู่ความว่างเปล่า ความว่างเปล่าในคืนขมุกขมัวใจกลางกรุง กับแสงไฟสลัวๆ สีเหลืองนวล บรรยากาศยามค่ำคืนที่ห้องหรีะ (Hri: Dakini Space) พื้นที่จัดงาน อากาศเย็นกำลังดี เบาะนั่งที่รองรับผู้คนหลากหลาย บ้างก็ตั้งใจมาฟังสมยศ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน บ้างก็มาเพราะพื้นที่เชื้อเชิญให้มาสัมผัส บ้างก็เพื่อนสมยศที่ตามมาจากเกาะพงัน และยังมีเพื่อนนักดนตรีที่มาแจมอย่าง ฟ้า (ศาลศิลป์) เนส ที่มาจากขอนแก่น และเอิงที่มาจากปาย ผลัดกันขึ้นมาแจม

ฉับพลันในความว่างเปล่านั้น ท่วงทำนองของเสียงเพลงที่แม้ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน สอดประสานรับกันด้วยตัวโน้ตแห่งประสบการณ์หลากหลายที่มา ความพิเศษของค่ำคืนที่เรียบง่าย เสียงเพลงเบาๆ เหมือนเพื่อนมานั่งเล่นให้ฟังที่บ้าน รู้สึกตัวอีกที เพลงนั้นก็พาเราไปยังดินแดนอันแสนไกล จะเป็นหุบเขา ท้องทะเล ผืนน้ำ หรือท้องฟ้า หรือแค่ชั่วขณะ ตรงหน้า เราตกอยู่ในภวังค์และมนต์ขลังของเสียงดนตรีจากหัวใจ ร้องทัก กวักมือเรียก เชื้อเชิญให้เราค่อยๆ เข้าไปสัมผัส ไม่มีการเปิดไมค์ มีแต่เสียงกีตาร์สดๆ เสียงร้องดิบๆ ของนักดนตรีที่ร่ายบทเพลงบรรเลงตรงหน้า ไม่มีฉาก ไม่มีเวทีกางกั้นระหว่างผู้เล่นและผู้ฟัง มีแต่ความว่างเปล่าที่เปิดรับและเติมเต็มทุกคนที่มาเยือนอย่างอบอุ่น บนเส้นทางสู่ความว่างเปล่า กับความเป็นไปได้อันงดงามที่เกิดขึ้น


“เส้นทางสู่ความว่างเปล่า” ของสมยศ คืออะไรน่ะหรือ?
แล้วทำไมต้องว่างเปล่า?

คงต้องเริ่มจากเมื่อ 8-9 ปีก่อน สมยศเคยออกอัลบั้มในนาม ยศ เพลินจิตร ยุคสมัยเดียวกับวง Flure และ Squeeze Animal ใครที่เป็นเด็กแนวอาจเคยได้ยินเสียงเพลง “นึกไปเอง” ลอยเข้ามาในหัว

“ฉันได้เจอเธอแค่ในความคิด ฉันได้จับมือเธอแค่ความรู้สึกฉันมองหาเธอว่าเธอนั่นอยู่ที่ใด อยากเจอเมื่อไร ก็ได้แต่นั่งนึกเอา”

สมยศเล่าว่าตอนนั้น แค่อยากมีเพลงของตัวเอง เลยลองแต่งเพลง “แต่ปกติผมเป็นมือกีตาร์ ไม่ใช่นักร้องครับ..”

ใช่แล้ว สมยศเคยเป็นนักดนตรีอาชีพ ออกคอนเสิร์ตไปทั่วในยุคนั้น เขายังร้องเพลงทุกวันสม่ำเสมอและแต่งเพลงใหม่ๆ ออกมาตามแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตที่เกาะพงัน สมยศขอบฟังเพลง The Beatles , Nirvana, Robert Johnson และ Jimmy Hendrix, เสก Loso, Selina and Sirinya และ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

นอกจากเป็นนักดนตรีแล้ว สมยศยังเปิดคาเฟ่ชื่อ “โคราชคาเฟ่” อยู่ที่บ้านใต้ เกาะพะงัน คาเฟ่ในสวน ข้างบ้านเช่าของเขาบนเกาะ ทุกวันนี้ยังบดกาแฟ คั่วเองทุกวัน มีผู้คนไปมาหาสู่กันที่โคราชคาเฟ่เสมอ เป็นที่พักริมทางของกลุ่มคนแปลกๆ ที่อาศัยอยู่บนเกาะพงัน มากินกาแฟกัน เล่นกีตาร์ ร้องเพลงกัน เปิดตลาดนัด จัดคอนเสิร์ต ทำกับข้าว ขายอาหาร ขายของมือสอง จะเป็นอะไรก็ได้ อย่างที่พื้นที่จะรังสรรค์ให้เป็น แล้วแต่ชุมชนและเพื่อนพี่น้องจะพาไป

“… เส้นทางแห่งความว่างเปล่าของผมคือ การค้นพบแก่นแท้ของจิตใจในตัวตนและจิตวิญญาณของตนเอง จึงเกิดย่านกลางของความรู้สึก ที่ไม่ใช่ความสุขความทุกข์ ไม่ใช่ความรักและการเกลียดชัง แต่มันคือจิตใจที่ว่างเปล่า ซึ่งปราศจากความคิดและความรู้สึก มันคือ ความบริสุทธิ์..”

ถ้าใครได้เคยรู้จักสมยศมาก่อน เขาเป็นคนเรียบง่าย ตรงไปตรงมา บางครั้งอาจจะดุดัน ขวานผ่าซาก แต่ก็เปิดกว้างกับคนทั่วไป (ถ้าคนทั่วไปเปิดกว้างกับเขา)

“…แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของผม คือ อยู่บนโลกให้มีความหมาย ได้ทำในสิ่งที่ใจปรารถนา ชีวิตมันคือศิลปะ คำพูดคือบทกวี เพราะชีวิตมันสั้นนิดเดียว…”

เรารู้จักสมยศผ่านเสียงเพลงของเขา เพลงแล้วเพลงเล่า ผ่านเรื่องราวที่เขาเล่าแกล้มเสียงดนตรี ในช่วงสุดท้าย เขายกกระป๋องเบียร์ Budweiser ขึ้นมาแล้วกล่าวว่า

“ผมก็ชอบกินนะ เบียร์บัดไวเซอร์ จริงๆ มันเป็นเบียร์ธรรมดาๆมาก แต่มันติดชื่อที่กระป๋องว่า King of Beer ผมก็เลยได้แรงบันดาลใจว่า เบียร์ธรรมดาๆ อย่างบัดไวเซอร์ยังเป็น King of Beer ได้เลย ผมก็เป็น King of Coffee ได้ เป็น King of Rock n’ Rolls ได้”

สมยศกล่าวปิดท้าย พร้อมขับกล่อมพวกเราด้วยเพลงสุดท้ายที่ก้องกังวานไปทั่วพื้นที่ว่างของห้องหรีะยามค่ำคืน

งานแสดงของ ยศ เพลินจิตร จบแล้ว แต่เสียงดนตรียังก้องกังวานอยู่ในความทรงจำ ความอบอุ่นเรียบง่ายยังไม่จางคลาย เขากล่าวขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เข้ามาฟังเพลงของเขา



“พวกเราได้กลายเป็นความทรงจำในส่วนหนึ่งของกันและกันเรียบร้อยแล้ว
ความทรงจำเรื่องราวระหว่างเราเข้มข้นเสมอ
อย่าลืมคิดถึง Korat Cafe’ Koh Pha-ngan นะครับ

Rockers is Life 🧬😘
Nothing is Real.
Love is rain 😎

อย่าตัดสินคนที่ภายนอก
อย่าตัดสินคนตามแบบชีวิตที่สังคมทั่วไปยอมรับ
แล้วคุณจะพบว่า “จิตวิญญาณ” มีอยู่ในทุกผู้คน
ที่ค้นพบบทเพลงอันงดงามของตัวเอง

…บนเส้นทางสู่ความว่างเปล่า

Long Live, King of Rock n’ Roll