Sufi : the path of love with Basit Jamal 4 กันยายน 65 (แปลไทย โดย กฤตยา ศรีสรรพกิจ)

4 กันยายน 65

17.30 -21.00 น.

ณ วัชรสิทธา เทเวศร์

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม 800-1,500 บาท

หมายเหตุ เรียนในพื้นที่จริง ไม่มีฟังย้อนหลัง

“ชาวซูฟีผู้ทรงพลังจะตายไปพร้อมกับความรักต่อฆาตกรที่ฆ่าเขาในหัวใจ”

หลายศตวรรษมาแล้วที่ชาวซูฟีได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้หลุดพ้นจากชีวิตที่ด้อยค่า ปลดปล่อยผู้คนจากคุกแห่งโลกเดิมที่คุมขังพวกเขาไว้ และช่วยให้พวกเขาได้อยู่อย่างสันติกับตัวเองและทุกสิ่งรอบตัว

ซูฟีเป็นนิกายลับที่เกิดขึ้นมาจากชุมชนมุสลิม โดยเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ต่อความยึดติดแบบโลกๆ เป็นแนวคิดที่กบฏต่อการยึดถือกฎเกณฑ์ที่แห้งแล้ง การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ไร้ความหมาย และการเมืองแห่งความแตกแยกที่ใช้ศาสนาเป็นข้ออ้าง ชาวซูฟีจึงถูกเข่นฆ่าอย่างรุนแรงหลายครั้งในประวัติศาสตร์โดยผู้ที่มีความคิดทางการเมืองซึ่งเห็นว่าคำสอนแห่งความรักของชาวซูฟีนั้นขัดแย้งกับการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจของพวกเขา

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถกำจัดชาวซูฟีไปจากโลกนี้ได้ และชาวซูฟียังคงช่วยให้ผู้คนเป็นตัวของตัวเองที่ดีขึ้นต่อไป

รายละเอียดกิจกรรม

ในค่ำคืนนั้นเราจะมาเรียนรู้ถึงปรัชญาเบื้องหลังความรักที่เข้มข้นเช่นนี้คืออะไร? ผ่านการพูดคุย นิทานซูฟี และบทกวีซูฟี และการภาวนา

• ความรักที่ไร้เงื่อนไขตามแนวทางของซูฟีเป็นอย่างไร?

• การรักคนที่ไม่ได้น่ารัก หรือไม่ได้รักเรา หรือทำสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร?

• พระเจ้าของซูฟีคือใคร?

• ความงาม ความมืดและแสงสว่าง ความเกลียดชังและความรัก

• แนวคิดความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

• เราจะมาเรียนรู้ว่าแนวทางแบบซูฟีคืออะไร และตัวตนที่แท้จริงของเราคือใคร

“Wherever you are, whatever your condition is, always try to be a lover”

– Rumi

“ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน สถานะไหน พยายามเป็นคนรักเสมอ”

– รูมิ

ที่มาภาพ : Ashoka

วิทยากร

Basit Jamal

บาซิท จามาลทำงานนี้มากว่า 20 ปี โดยเป็นผู้นำการอบรมและการภาวนาเพื่อการเติบโตทางจิตวิญญาณตามแนวซูฟี เพื่อตอบสนองความต้องการทางจิตวิญญาณของผู้คนทั่วอินเดียและต่างประเทศ เขาได้ช่วยคนหลายพันคนให้ตื่นขึ้นสู่ความหมายที่แท้จริงและเป้าประสงค์แห่งชีวิต ย้ำเตือนผู้คนถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงและจุดหมายปลายทางสูงสุดของเรา และช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตด้วยหัวใจ ในสันติ ความสุข ความสร้างสรรค์ และความกตัญญูรู้คุณ ไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เขาได้ช่วยผู้คนมากมายหลายกลุ่มเปลี่ยนจากเส้นทางแห่งความเกลียดชัง ความเป็นศัตรู และความรุนแรงมาสู่เส้นทางแห่งความรัก มิตรภาพ และการเห็นอกเห็นใจ

ผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เช่น Ashoka Fellowship, UNESCO และ United Religions Initiative เป็นต้น และเขาได้เปิดศูนย์ซูฟี ในเดลีมาตั้งแต่ปี 2560