โดย THANYA วัชรสิทธา
นิทานเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมกิจกรรม Embracing the Internal Conflicts : โอบกอดความขัดแย้งภายในเพื่ออิสรภาพและการเติบโตทางจิตวิญญาณ กับ ณัฐฬส วังวิญญู และ สมพล ชัยสิริโรจน์ เมื่อวันที่ 2-4 ก.ย. 65
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/atc_itnconflict01-1024x536.jpg)
ในปราสาทแห่งหนึ่ง ณ ดินแดนของจิตใจอันลี้ลับ เจ้าหญิงและราชครูกำลังยืนเถียงกันอยู่หน้ากรงที่มีเจ้าเสือตัวน้อยหมอบหูลู่ดูทั้งสองทะเลาะกัน
เสือตัวนี้เป็นดั่งหัวใจของปราสาท ทุกๆคนล้วนรักและใส่ใจเลี้ยงดูมัน ไม่ว่าจะเป็นพระราชาผู้เด็ดขาด พระราชินีผู้สง่างาม พี่เลี้ยงผู้อ่อนโยน นักดนตรีผู้สร้างสรรค์ นักเล่าเรื่องผู้อมทุกข์ แม่ครัวผู้เอื้ออารีย์ หรือผู้ดูแลคลังจอมงก ต่างแวะเวียนมาช่วยกันเลี้ยงดูเจ้าเสือตัวน้อย เพื่อให้มันเติบโตได้อย่างดิบดี
เจ้าเสือมีความสุขที่ได้เป็นที่รัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้คนรอบๆตัวมันเริ่มทะเลาะกันเอง มันก็จะเสียใจและเหน็ดเหนื่อยที่ต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/1663410720251.jpg)
เจ้าหญิงและราชครูอาศัยอยู่ในปราสาทนี้มาเนิ่นนาน ผู้คนในปราสาทมักจะเห็นสองคนนี้ทะเลาะต่อล้อต่อเถียงกันตลอดเวลา ทุกครั้งที่เจ้าหญิงปรากฏตัวขึ้น ราชครูก็จะโผล่ตามมาราวกับเงา และทั้งสองคนก็ไม่เคยที่จะลงรอยกัน สร้างความเหนื่อยหน่ายระอาใจให้แก่ผู้คนในปราสาท รวมไปถึงทั้งคู่ที่เป็นต้นเรื่องด้วย
“เลิกบ่นหยุมหยิมเสียที เราเบื่อจะฟังแล้ว” เจ้าหญิงยกแขนกอดอก เชิดหน้าใส่ราชครู
“ข้าก็รำคาญจะต้องตักเตือนเจ้าเหมือนกัน” ชายชราสวนกลับ
เช้าวันนี้เอง พระอาทิตย์ผู้ทำหน้าที่ส่องสว่างเดินทางผ่านมาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปราสาท รู้สึกสนใจ จึงแวะเข้ามาทักทาย
“สวัสดีท่านทั้งสอง สวัสดีเจ้าเสือน้อย พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่” พระอาทิตย์ถามอย่างเป็นมิตรด้วยรอยยิ้ม
พอเจ้าหญิงเห็นพระอาทิตย์ เธอก็รีบหันไปกล่าว “เราคือเจ้าหญิงแห่งปราสาทหลังนี้ เราอยากปล่อยให้เจ้าเสือออกจากกรงมาเดินเล่นสนุกสนาน แต่ท่านราชครูไม่ยอม”
“ทำไมท่านถึงไม่ยอมเล่า” พระอาทิตย์หันไปถามราชครู
“เพราะหากเจ้าหญิงพาเสือไปเดินเล่น เธอจะต้องพาเสือไปกัดคนอื่นแน่ๆ ข้ายอมให้เกิดความเสียหายไม่ได้หรอก” ราชครูตอบอย่างหนักแน่น “เจ้าหญิงไม่รู้ตัวหรอกว่าเธอจะไปทำร้ายใครรึเปล่า จะให้ปล่อยเสือออกจากกรงหรือ ไม่มีทางหรอก!”
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/1663410720746-1-1024x768.jpg)
เจ้าหญิงได้ยินคำพูดก็ยิ่งฉุนเฉียว “เราจะไม่รู้ตัวได้อย่างไร! ถ้าท่านไม่ปล่อยให้เราพาเจ้าเสือไปวิ่งเล่น มันก็จะไม่มีอิสระน่ะสิ กรงแค่นี้อึดอัดจะตายไป จะอยู่ได้ยังไงกัน”
“อยู่ได้สิ ดีกว่าออกไปแล้วอาละวาด ทำร้ายคนอื่นจนอยู่กับใครไม่ได้ ข้าไม่อยากให้ใครมาเกลียดกลัวเจ้าเสือ” ราชครูส่ายหน้า
พระอาทิตย์ฟังมาถึงตรงนี้ก็เริ่มตั้งคำถามกลับ “ฟังดูแล้ว ท่านทั้งสองดูจะใส่ใจเจ้าเสือมากเลย”
“ใช่ ข้าอยากให้เจ้าเสืออยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างดี ไม่ไปทำร้ายใคร รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่โอ้อวด ไม่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น” ชายชราตอบ
“เราก็เช่นกัน” เจ้าหญิงหันไปพูดกับพระอาทิตย์ “เราจะบอกเสือเสมอว่าเธอพิเศษ เธอมีคุณค่า เธอแตกต่างจากผู้อื่น เราใส่มงกุฏให้เจ้าเสือรู้ตัวในความดีงามของตัวเอง”
“นั่นล้วนเป็นสิ่งที่ดี” พระอาทิตย์อุทาน ยิ้มให้เจ้าเสือด้วยความยินดี
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/1663410720411.jpg)
“แต่เรารำคาญท่านราชครูเหลือเกิน เวลาเราจะให้เจ้าเสือได้วิ่งให้เร็วที่สุด กระโจนให้ไกลที่สุด ท่านราชครูก็จะมาห้ามเราไว้เสมอ เรากลัวว่าสักวันหนึ่ง เจ้าเสือจะลืมไปเสียว่าตัวเองมีอิสระที่จะทำอะไร” เจ้าหญิงบ่น กระทืบเท้าไม่พอใจ “ท่านราชครูไม่เคยวางใจปล่อยเราเลย เราไม่เคยคิดจะทำร้ายใครเลย ที่ผ่านมาเราได้รับแต่ความดีงาม อยู่ในปราสาทที่งดงาม เราจะไปทำร้ายคนอื่นเพื่ออะไร!”
“เจ้าหญิงเคยลืมตัวน่ะสิ” ราชครูมองด้วยความระอา “จำวันที่ข้าไม่อยู่แล้วเจ้าหญิงกับเจ้าเสือออกไปเที่ยวเล่นกันได้ไหม? ครั้งนั้นพวกเจ้าทำร้ายคนไปทั่ว เผลอไปข่วน เผลอไปกัดคนรอบข้าง จากนั้นก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามายุ่งกับเจ้าเสืออีกเลย เจ้าเสือเสียใจมากในตอนนั้น ข้าจึงต้องดูแลไม่ให้เผลอไปทำเช่นนี้อีก”
“แต่ตอนนั้นเรายังเด็ก เราไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้เราโตขึ้นแล้ว” เจ้าหญิงมองตาราชครูตรงๆ “เราเพียงอยากให้เสือได้เป็นอิสระและรับรู้คุณค่าของตัวเอง เพื่อที่จะได้จริงใจต่อผู้อื่น”
ทั้งคู่เงียบไป นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้ถึงเจตนาของอีกฝ่าย หลังผ่านการทะเลาะกันมานานแสนนาน
เจ้าเสือค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ เมื่อสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดี มันก็ล้มตัวนอนอย่างสบายใจ
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/1663420687498-1024x768.jpg)
“ดีเหลือเกินนะ” พระอาทิตย์ยิ้มกับเสือ “ทั้งสองอยากให้เจ้ารักตัวเองและเป็นที่รัก ดีจริงๆที่มีสองคนนี้เลี้ยงดูเจ้าอยู่”
เสือยิ้มตอบพระอาทิตย์ เผื่อแผ่รอยยิ้มให้กับเจ้าหญิงและราชครู
เจ้าหญิงกับราชครูยิ้มตอบ และหันมายิ้มให้กันเป็นครั้งแรก
หลังจากนั้นมา เจ้าหญิงก็ได้ปล่อยให้เจ้าเสือออกมาจากกรง ผู้คนในปราสาทก็จะเห็นภาพเธอพาเจ้าเสือวิ่งเล่น โดยมีราชครูเดินตามอยู่ไม่ไกล แต่ทั้งคู่ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันอีกแล้ว
ราชครูเคารพในความคิดของเจ้าหญิง ยอมให้เจ้าหญิงพาเสือวิ่งกระโจนอย่างอิสระ
เจ้าหญิงขอบคุณการมีอยู่ของราชครู และรับฟังเสียงตักเตือนเสมอ
เจ้าเสือตัวน้อยมีความสุขที่ไม่ต้องอยู่กลางความขัดแย้ง แท้จริงแล้วทั้งสองร่วมมือกันเลี้ยงดูเจ้าเสือให้เติบโตอย่างดีมาตลอด เมื่อตระหนักรู้เช่นนี้แล้ว มันก็รู้สึกขอบคุณจากใจ
![](https://www.vajrasiddha.com/wp-content/uploads/2022/09/1663410720522-1.jpg)
เมื่อพระอาทิตย์ผ่านมาที่ปราสาทอีกครั้ง ก็ยิ้มให้กับเจ้าเสือที่อยู่นอกกรงอย่างเป็นอิสระ โดยที่ไม่ไปทำร้ายใคร เป็นตัวของตัวเอง และเป็นที่รัก